สวัสดีค่ะ ดิฉันอายุ23 ปี ดิฉันเพิ่งส่องกล้องทั้งทางกระเพาะและลำไส้ และอัลตราซาวด์หน้าท้องช่วงบนทั้งหมด หมอบอกผลเลือดและอัลตราซาวด์ปกติ แต่ส่องกล้องเจอติ่งเนื้อสี่ติ่งแต่เป็นติ่งเล็กๆนิดเดียว แต่หมอได้เขี่ยออก แต่ได้ส่งชิ้นเนื้อไปตรวจ หมอบอกว่าดิฉันอายุยังน้อยมาก และครอบครัวทั้งฝ่ายพ่อและแม่ไม่มีใครเป็น (คุณหมอแจ้งว่าที่ปวดท้องไม่เกี่ยวกับที่เจอติ่งเนื้อ) แต่ดิฉันกลับบ้านมาหลังจากออกจากรพ. ดิฉันก็กลัวเลยยิ่งสังเกตตัวเอง เวลาที่ถ่านสีอุจจาระมีสีปกติ แต่เหมือนมีน้ำสีขาวๆเหมือนนมผสมน้ำเปล่าออกมาด้วยบ้าง และเหมือนมีเมือกใสๆออกมาด้วย อันนี้ถือว่าร้ายแรงไหมค่ะ ตอนนี้ยาที่หมอให้กินอยู่มีห้าตัว คือ ยาColofac135 mg.,Berclomine100mg.,Pariet20mg.,Magesto-f,Mom300 mg. และวันนี้16/1/18 คุณหมอนัดฟังผล คุณหมอบอกว่า ชิ้นเนื้อ ชื่อว่า tumor และเริ่มต้นด้วยอักษรตัวAแต่ดิฉันจำไม่ได้ คุณหมอบอกว่าสามารถกลายพันธุ์เป็นมะเร็งได้ แต่หมอตัดและเขี่ยออกไปหมดแล้ว และหมอบอกว่า ดิฉันเป็นลำไส้และกระเพราะอักเสบเรื้องรัง จากเชื้อแบคทีเรีย แต่หมอขอนัดส่องกล้องอีกทีปีหน้า ดิฉันก็สอบถามว่าทำไมหมอก็บอกว่า มันสามารถที่จะเป็นมะเร็งได้ ตอนนี้ยาที่คุณหมอให้มี 7ตัว คือ1.BER clomube10/100 MG 2.Magesto-F 3.Clarithromycin 500MG 4.Flagyl 400MG 5.Amoxycillin 500MG 6.Prevacid FDT 30MG 7.Motilium-m 10MG. และวันนี้ตอนนี้ดิฉันมีประจำเดือน มาเป็นวันนี้ที่4 แต่อยู่ๆปวดตุบๆที่รูทวาร มาทางฝั่งซ้าย แต่ดิฉันไม่ได้เบ่งหรือไม่ได้ปวดตอนเบ่ง แต่อยู่ๆก็เป็นขึ้นมานั่งอยู่ดีๆก็เป็นแต่ไม่ได้เป็นตลอด อย่างนี้เป็นริดสีดวงใช่มั้ยคะ? แต่ดิฉันส่องกล้องใหญ่ ถ้าเป็นคุณหมอต้องแจ้งรึเปล่าค่ะ? หรือเป็นผลมาจากประจำเดือน? (ดิฉันเพิ่งตรวจภายในไป พบแค่ถุงน้ำ 7 มิล หมอบอกไม่เป็นไรแตกเองได้)

สวัสดีครับ ขอ ตอบคำถามเป็นช่วงๆนะครับ อย่างแรกเลย 1. ยาที่คุณหมอจ่ายมา ซึ่งจ่ายโดยแพทย์ชำนาญการพิเศษครับ ซึ่งควรกินตามที่แพทย์จ่ายมาให้คบครับ 2. การถ่ายที่เป็นน้ำหลังจากที่ส่องกล้องเพราะว่าเวลาที่ส่องกล้องจะมีการฉีดน้ำเป็นระยะเพื่อให้กล้องมองเห็นได้ชัดเจนครับ ซึ่งสามารถถ่ายออกมาได้เป็นน้ำอย่างที่เจ้าของกระทู้กล่าวมาครับ ไม่เป็นอันตรายครับ และป็นผลของยาถ่ายที่กินเข้าไปได้ครับ 3. คือ การมีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่สามารถกลายเป็นเนื้อร้ายได้ครับ ซึ่งจากที่บอกข้อมูลมา คาดว่าอาจจะชื่อว่า adenomatoid tumor ครับ
ซึ่งความจริงอาจจะไม่ใช่ชื่อนี่นะครับ เป็นเพียงการคาดเดาครับ จึงจำเป็นต้องตัดออกและนัดฟังผลตรวจครับ และต้องนัดส่องกล้องเป็นระยะๆเพื่อไม่ให้เกิดรอยโรคใหม่ครับ เป็นมาตรฐานการรักษาครับ

สวัสดีครับ อาการปวดที่รอบรูทวาร เป็นเฉพาะช่วงมีประจำเดือนใช่ไหมครับ หรือว่าปวดที่รอบรูทวารตลอดโดยไม่เกี่ยวกับประจำเดือน แล้วมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วยไหมครับ แล้วมีก้อนยื่นออกมา มีเลือดไหลอะไรหรือป่าวครับ ถ้าไม่มี ก้อนยื่นออกมาหรือเลือดไหล อาจเกิดจาก โรค เนื้อเยื่อมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) ได้ครับ ครับซึ่งจะทำให้เกิดการขับถ่ายที่ปกติไม่เจ็บ และทำให้ส่องกล้องเข้าไปดูในลำไส้มองไม่เห็นได้ครับ ซึ่งเป็นภาวะผิดปกติของทางนารีเวชกรรมครับ ซึ่งรักษาได้โดยกินยา แก้ปวดบรรเทาอาการครับ และอีกอย่างคือ การผ่าตัดส่องกล้องเข้าไปหาดูว่ามี เนื้อเยื่อมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) บริเวณไหนบ้างแล้วตัดมันออกจากร่างกาย หรือ อีกวิธีคือการฉีดยาคุม ชื่อ Depomedroxyprogesterone acetate (DMPA) ได้ครับ จะบรรเทาอาการปวดได้ครับ อันนี้เป็นเพียงสมมุติฐานอย่างหนึ่งจากที่เจ้าของกระทู้กล่าวมานะครับ โดยไม่มีการตรวจร่างกายยืนยันครับ เพราะฉะนั้นแนะนำว่าควรไปพบแพทย์ดีกว่าครับ

สวัสดีครับ ถ้าตรวจภายในร่วมกับ ตรวจลำไส้แล้วพบว่าปกติ อย่างน้อยก็สบายใจได้ครับว่าไม่เป็นโรคร้ายแรง และอยากให้ลองสังเกตุอาการตนเองครับว่า เวลาประจำเดือนไม่มาแล้วยังปวดรอบรูทวารหรือไม่ครับ