สวัสดีค่ะ ประมาณ1-2เดือนที่ผ่านมา มีอาการเครียด กังวล นอนไม่หลับ แต่ถึงจะหลับมาก พอตื่นขึ้นมาก็จะไม่มีแรง ชอบคิดไปเอง คิดไปก่อน คิดว่าไม่มีใครชอบเรา ในหัวคิดแต่ว่า คนนี้เค้าโกรธเราหรือเปล่า หรือว่าคนนี้เค้าไม่ชอบเราหรือเปล่า แล้วเราก็จะไม่อยากให้ใครเกลียดเราอ่ะค่ะ ถ้าเรารู้สึกว่ามีคนไม่ชอบเราก็จะรู้สึกแย่ทันที เวลาทะเลาะกับพ่อแม่ก็จะระบายโดยการตบหน้าตัวเอง หรือ เอาเล็บขูดขาตัวเอง พอทำแล้วก็จะรู้สึกดีขึ้น หรือร้องไห้น้อยลง หรือเวลาทะเลาะกับใครก็แล้วแต่ ก็จะมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย อาการเริ่มประมาณป.2ตอนนี้ ม.6แล้วค่ะ อาการจะมาเป็นช่วงๆค่ะ เมื่อก่อนประมาณ1-2ปีมาแค่ประมาณ2ครั้ง ตอนนี้มาบ่อยมาก บ่อยจนเราไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ ต้องมีเพื่อนอยู่ด้วยตลอดเคยไปหาดูในgoogle ตอนแรกคิดว่าเป็นโรคซึมเศร้า ไปดูอีกก็คิดว่าเป็นแค่โรคเครียด แต่ก็ยังไม่แน่ใจช่วยหน่อยนะคะตอนนี้ไม่มีความสุขเลยอาการนี้คืออะไรคะ

จากอาการอาจเป็นได้ตั้งแต่ - ภาวะเครียดสะสม - ความผิดปกติของการปรับตัว - ความผิดปกติทางบุคลิกภาพบางอย่าง - ปัญหาทางด้านอารมณ์ เช่น ซึมเศร้า ไบโพลาร์ ในกรณีที่มีอาการมานานหลายปี อยากแนะนำให้ลองสำรวจอาการซึมเศร้าเพิ่มเติมนะคะ โดยให้สำรวจอาการในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมวันนี้ มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน 1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข แม้แต่กับสิ่งที่เคยชอบก็เบื่อ 2.ท้อแท้ มีอารมร์เศร้า 3.อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 4.หงุดหงิด รำคาญใจ 5.ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืม 6. มีปัญหาด้านการนอนหลับ หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรืออยากนอนทั้งวัน 7.มีปัญหาด้านการกิน เบื่ออาหาร /ทานได้เยอะจนผิดปกติ 8.รู้สึกไร้ค่า ขี้น้อยใจ 9.อยากตาย / อยากทำร้ายตัวเองให้บาดเจ็บ หากมีอาการเกิน 7 ข้อ เป็นต่อเนื่องเกือบทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์ ก็อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ สาเหตุของซึมเศร้า หลักๆมาจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ และการมีปัญหา/เหตุการณ์รุนแรงต่างๆเข้ามา อาจกระตุ้นให้อาการกำเริบและรุนแรงมากขึ้น การรักษาที่ได้ผลดี คือการใช้ยาร่วมกับการทำจิตบำบัด ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ช่วยให้ควบคุมความคิด การรับรู้ การแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมได้เหมาะสมตามเหตุผลที่เป็นจริง ส่วนการทำจิตบำบัดจะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจช่วยให้ปรับตัวกับปัญหาต่างๆได้ดีขึ้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกตินะคะ สรุปคือ ในกรณีนี้อยากแนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการอื่นๆเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาตามแนวทางที่เหมาะสมต่อไปนะคะ