อาร์คอกเซีย (Arcoxia) เป็นชื่อการค้าของยาที่มีตัวยาสำคัญ คือ อีทอริคอกซิบ (Etoricoxib) เป็นยาในกลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Nonsteroidal Anti-Inflammatory Drugs: NSAIDs)
ยาอาร์คอกเซียมีข้อบ่งใช้ในผู้ใหญ่ และเด็กโตอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป โดยออกฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดต่อไปนี้
ตรวจกระดูกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 534 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- อาการปวดข้อเสื่อม (Osteoarthritis)
- ข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
- ข้อสันหลังอักเสบยึดติด (Ankylosing spondylitis)
- อาการปวดทั่วไป
- สัญญาณของการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับเกาต์ชนิดเฉียบพลัน (Acute gouty arthritis)
- ใช้รักษาอาการปวดในระยะสั้นหลังทำทันตกรรม
กลไกระงับอาการปวดของยา Arcoxia
กลไกการอักเสบของร่างกายนั้น เริ่มต้นจากเอนไซม์ ไซโคลออกซิจิเนส (Cyclooxygenase: COX) ได้หลั่งสารพรอสตาแกลนดินส์ (Prostaglandins) ออกมาในร่างกายของผู้ป่วย โดยสามารถแบ่ง COX ได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ COX-1 และ COX-2
COX ทั้ง 2 ชนิดสามารถหลั่งสารพรอสตาแกลนดินส์ที่ทำให้เกิดการอักเสบ การปวด และเกิดไข้ได้เหมือนกัน แต่เฉพาะ COX-1 เท่านั้นที่จะหลั่งสารพรอสตาแกลนดินส์ซึ่งสามารถกระตุ้นการทำงานของเกล็ดเลือด และช่วยป้องกันกระเพาะจากการถูกกรดของชั้นเยื่อเมือกทำลายได้
ยา NSAIDs ทั่วไปจะยับยั้งทั้งเอนไซม์ COX-1 และ COX-2 ทำให้การหลั่งพรอสตาแกลนดินส์ลดลง ผลคือ ยาจะสามารถลดอาการอักเสบ ปวด และเป็นไข้ได้
แต่ในขณะเดียวกัน พรอสตาแกลนดินส์ที่สร้างจาก COX-1 ซึ่งมีบทบาทในการปกป้องกระเพาะจากกรด และกระตุ้นให้เกิดการแข็งตัวของเลือด ก็จะลดลงด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้ใช้ยากลุ่ม NSAIDs อาจเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเลือดออกได้
ด้วยเหตุนี้ จึงได้มีการพัฒนายา NSAIDs กลุ่มใหม่ คือ NSAIDs กลุ่มที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเฉพาะเอนไซม์ COX-2 เท่านั้น เมื่อการออกฤทธิ์ของยาไม่เกี่ยวข้องกับการยับยั้ง COX-1 จึงทำให้ยาไม่ส่งผลต่อการทำลายของกระเพาะอาหาร และการแข็งตัวของเลือด
อีทอริคอกซิบ ซึ่งเป็นตัวยาสำคัญในยาอาร์คอกเซีย จัดเป็นยา NSAIDs กลุ่มใหม่ จึงสามารถลดอาการอักเสบ และอาการปวดได้โดยไม่ส่งผลต่อกระเพาะอาหาร และเกล็ดเลือด โดยการออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ของอีทอริคอกซิบ จะขึ้นกับขนาดยาที่รับประทาน (Dose-dependent)
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
รูปแบบของยา Arcoxia
Arcoxia มีวางจำหน่ายทั้งสิ้น 4 ขนาด คือ ขนาด 30 มิลลิกรัม 60 มิลลิกรัม 90 มิลลิกรัม และ 120 มก. ทั้ง 4 ขนาดผลิตในรูปแบบของยาเม็ดบรรจุลงในแผงอะลูมิเนียม แผงละ 5 เม็ด ราคาประมาณแผงละ 300 บาท โดยแต่ละขนาดจะมีสีตัวอักษรบนแผงและกล่องที่แตกต่างกัน ดังนี้
- Arcoxia ขนาด 30 มิลลิกรัม ระบุขนาด 30 mg ใช้ตัวอักษรสีเขียว
- Arcoxia ขนาด 60 มิลลิกรัม ระบุขนาด 60 mg ใช้ตัวอักษรสีน้ำเงิน
- Arcoxia ขนาด 90 มิลลิกรัม ระบุขนาด 90 mg ใช้ตัวอักษรสีดำ
- Arcoxia ขนาด 120 มิลลิกรัม ระบุขนาด 120 mg ใช้ตัวอักษรสีแดง
ความแตกต่างแต่ละขนาดของยา Arcoxia และวิธีใช้
Arcoxia ทั้ง 3 ขนาดมีตัวยาสำคัญแบบเดียวกัน การผลิตยาขนาดต่างกันนั้นเพื่อความสะดวกในการเลือกรับประทานยาให้ได้ขนาดตามอาการที่ต้องการรักษา ข้อบ่งใช้ และขนาดรับประทานของยา Arcoxia มีดังนี้
- ข้อบ่งใช้สำหรับโรคข้อเสื่อม รับประทานขนาด 60 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง ในผู้ป่วยบางรายที่ยาไม่ตอบสนองดีพอ อาจเพิ่มขนาดยาได้ถึง 90 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง เมื่อสามารถรักษาอาการปวดของผู้ป่วยให้คงที่ได้ จึงค่อยลดขนาดยาลงมาที่ 60 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง
- ข้อบ่งใช้สำหรับข้อสันหลังอักเสบยึดติด รับประทานขนาด 60 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง ในผู้ป่วยบางรายที่ยาไม่ตอบสนองดีพอ อาจเพิ่มขนาดยาได้ถึง 90 มิลลิกรัม วันละครั้ง เมื่อสามารถรักษาอาการปวดของผู้ป่วยให้คงที่ได้ จึงค่อยลดขนาดยาลงมาที่ 60 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง
- ข้อบ่งใช้สำหรับอาการปวดเฉียบพลัน ให้ใช้ยาขนาด 60 มิลลิกรัม เฉพาะเมื่อมีอาการปวดเฉียบพลันเท่านั้น ไม่แนะนำให้ใช้ยาต่อเนื่อง หรือเพื่อรักษาอาการปวดเรื้อรัง
- ข้อบ่งใช้สำหรับข้ออักเสบจากเกาต์ รับประทานขนาด 120 มิลลิกรัม วันละครั้ง ในการศึกษาทางคลินิกสำหรับรักษาโรคเกาต์นั้น มีการให้ยากับผู้ป่วยเป็นเวลา 8 วัน
- ข้อบ่งใช้สำหรับรักษาอาการปวดในระยะสั้นหลังทำทันตกรรม รับประทานขนาด 90 มิลลิกรัม วันละครั้ง จำกัดการใช้ยาสูงสุดที่ 3 วัน
การใช้ยาขนาดสูงกว่าที่แนะนำในแต่ละข้อบ่งใช้นั้น ยังไม่มีข้อมูลการศึกษาแสดงถึงประสิทธิผลการรักษาที่ดีกว่า จึงแนะนำให้ใช้ยาในขนาดที่แนะนำข้างต้น หรือปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้
กลุ่มผู้ที่เหมาะกับยา Arcoxia
ในผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ยากลุ่ม NSAIDs เพื่อการรักษาเป็นระยะเวลานาน การใช้ยาในกลุ่มต้าน COX-2 อาจส่งผลดีในแง่การลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร รวมถึงอาการเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร
ดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้ยากลุ่มนี้ ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะเหล่านี้สูง เช่น ในผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยที่มีการใช้ยาสเตียรอยด์ร่วม
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยา Arcoxia ในผู้ป่วยที่ตอบสนองต่อยากลุ่ม NSAIDs กลุ่มที่ยับยั้งทั้ง COX-1 และ COX-2 ได้ไม่ดี
แต่สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ได้มีความเสี่ยงของการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร แนะนำให้พิจารณาเรื่องราคาเป็นปัจจัยสำคัญ เนื่องจากยา NSAIDs กลุ่มใหม่จะมีราคาสูงกว่า NSAIDs กลุ่มเก่ามาก
กลุ่มผู้ที่ควรหลีกเลี่ยง และระมัดระวังในการใช้ยา Arcoxia
กลุ่มผู้ป่วยบางกลุ่มจะต้องระมัดระวังการใช้ยา Arcoxia เป็นพิเศษ เช่น
- ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดตีบ
- ผู้ป่วยที่มีแผล หรือมีภาวะแทรกซ้อนในระบบทางเดินอาหาร
- ผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ผู้ป่วยโรคตับ
- ผู้ป่วยไตบกพร่อง
- ผู้ป่วยเด็ก และผู้ป่วยสูงอายุ
- ผู้ที่สูบบุหรี่จัด
นอกจากนี้ ยังไม่แนะนำให้ใช้ยา Arcoxia ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยต่อไปนี้
- ผู้ป่วยที่กำลังมีภาวะแผลในกระเพาะอาหาร หรือเลือดออกในทางเดินอาหารอยู่
- ผู้ป่วยมีอาการตับบกพร่องรุนแรง (มีค่า CrCl ต่ำกว่า 30 มิลลิลิตรต่อนาที)
- ผู้ป่วยมีอาการของโรคหืด
- ผู้ป่วยเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบเฉียบพลัน
- ผู้ที่มีประวัติเกิดผื่นลมพิษจากการใช้ยาแอสไพริน หรือยากลุ่ม NSAIDs อื่น
- ผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบ
- ผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง
- ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมอาการไม่ได้
- ผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด
- สตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร
- เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี
อาการแพ้ยา Arcoxia
การแพ้ยา Arcoxia ไม่มีอาการที่จำเพาะเจาะจง โดยอาการที่พบจะเป็นอาการเดียวกับการแพ้ยาทั่วไป ได้แก่ เกิดผื่นแดง ผื่นลมพิษ (hive) มีอาการคัน หรือบวมบริเวณผิวหนัง
หากมีอาการดังกล่าวแนะนำให้รีบไปพบแพทย์ รวมถึงแจ้งให้แพทย์ทราบว่ารับประทานยาอะไรบ้าง เพื่อแพทย์จะได้รักษาอาการ และประเมินการแพ้ยาได้ถูกต้อง
ยา Arcoxia มีข้อจำกัดหลายอย่างเกี่ยวกับการใช้ยา เพื่อความปลอดภัยในการรับประทาน และให้ยามีประสิทธิภาพในการรักษาโรคดีที่สุด คุณควรให้แพทย์ หรือเภสัชกรเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจกระดูก และความผิดปกติของกระดูก จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android
