8 สิ่งที่ทำให้ผิวมีโอกาสเสียหายจากแสงแดดมากขึ้น

เผยแพร่ครั้งแรก 21 พ.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
8 สิ่งที่ทำให้ผิวมีโอกาสเสียหายจากแสงแดดมากขึ้น

อย่างที่เราทราบกันดีว่า แสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวของเราแก่ก่อนวัย อีกทั้งยังเป็นต้นเหตุของการเกิดริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ผิวหย่อนคล้อย โรคมะเร็งผิวหนัง ทำให้ผิวไหม้ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม การไม่ทาครีมกันแดดเมื่ออยู่นอกบ้านไม่เพียงแต่ทำให้ผิวมีโอกาสไหม้แดดมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถทำให้ผิวของคุณมีโอกาสเสียหายจากแสงแดดมากขึ้นเช่นกัน แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เราลองมาดูพร้อมกันเลยค่ะ

1. สกินแคร์บางชนิด

ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย และผลิตภัณฑ์รักษาสิวสามารถทำให้ผิวชั้นนอกบางลง หรือควบคุมการผลิตเมลานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีตามธรรมชาติที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันแสงอาทิตย์ หากผลิตภัณฑ์มีเรตินอล วิตามินเอ ไกลโคลิก กรดซาลิซิลิก หรือไฮโดรควิโนน ผิวของคุณอาจมีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากแสงแดดมากขึ้น ทางที่ดีคุณควรทาครีมกันแดด ใส่เสื้อผ้าที่ช่วยป้องกันแสงแดด และสวมหมวก

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

2. น้ำหอม

เชื่อหรือไม่ว่า น้ำหอมบางชนิดสามารถทำให้ผิวมีความไวต่อแสงแดดมากขึ้น น้ำหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ ซีดาร์ โรสแมรี มะกรูด และไม้จันทน์ มักมีสารเคมีที่มีความไวต่อสิ่งกระตุ้น กล่าวโดย Sonia Batra แพทย์ผิวหนัง เมื่อน้ำหอมกลิ่นเหล่านี้สัมผัสกับแสงแดด มันก็สามารถทำให้ผิวระคายเคือง ผิวอักเสบ หรือทำให้เกิดจุดด่างดำ

3. ยาที่ทาน

ยาสำหรับทานบางชนิดที่มีจุดประสงค์เพื่อรักษาสิวอย่างไอโซเทรทิโนน สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผิวไหม้แดดได้มากทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้กันด้วยว่ายารักษาโรคซึมเศร้า ยาต้านฮีสตามีน ยาปฏิชีวนะ ยาต้านเชื้อรา และยาต้านการอักเสบ ล้วนแต่ทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น ทางที่ดีคุณควรปรึกษาแพทย์ค่ะ

4. รถยนต์

หากคุณคิดว่าการนั่งอยู่ในรถจะทำให้คุณรอดพ้นจากอันตรายจากแสงแดด คุณคิดผิดแล้วค่ะ เพราะรังสียูวีมี 2 ชนิด คือ รังสียูวีบี และรังสียูวีเอ ซึ่งกระจกหน้าต่างสามารถป้องกันรังสียูวีบีได้ ในขณะที่รังสียูวีเอสามารถทะลุผ่านกระจก และทะลวงเข้าสู่ผิวของเรา ดังนั้นการทาครีมกันแดดทุกวันเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับคนที่ใช้เวลาในรถเป็นเวลานาน หรือนั่งใกล้หน้าต่างตอนทำงาน

5. อาหาร

การได้รับไนอาซีน (วิตามิน บี3) ไม่เพียงพอ มีความเชื่อมโยงกับการมีผิวที่ไวต่อดวงอาทิตย์มากขึ้น สำหรับอาหารที่คุณพบวิตามิน บี3 ได้มาก เช่น เนื้อ เห็ด ถั่วลิสง และธัญพืชที่มีการเติมวิตามิน บี3 ในขณะที่อาหารอย่างมะนาว เซเลอรี และพาสลีย์ มีสารประกอบที่ทำให้ผิวมีความไวต่อแสง โดยสามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาเช่นเดียวกับภาวะผิวไหม้แดด

6. ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่

การเป็นโรค หรือการรักษาที่ไประงับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้คุณมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง และผิวเสียหายจากแสงแดดมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การทานยากดภูมิคุ้มกันเพื่อรักษาโรคลูปัส โรคสะเก็ดเงิน หรือโรครูมาติกส์ การรักษาโดยใช้เคมีบำบัด การไม่สามารถควบคุมโรคเอดส์ ฯลฯ

7. การไม่ทาครีมกันแดดในวันที่ไม่มีแสงแดด

คุณสามารถมีผิวไหม้ในวันที่อากาศเย็น หรือแม้แต่วันที่มีเมฆมาก ซึ่งคนส่วนมากมีแนวโน้มที่จะไม่ใช้ครีมกันแดด แต่คุณทราบหรือไม่ว่า 80% ของรังสียูวีสามารถทะลุผ่านก้อนเมฆได้ ดังนั้นไม่ว่าอุณหภูมินอกบ้านเป็นเท่าไร คุณควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งในช่วงเวลาที่รังสียูวีมีความเข้มข้นมากที่สุด ซึ่งอยู่ในช่วงเวลา 11.00 น.-15.00 น. และให้คุณทาครีมกันแดดทุกวันแม้ว่าวันนั้นจะไม่มีแสงแดดก็ตาม

8. ไม่ทาครีมกันแดดซ้ำ

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ทาครีมกันแดดเพียงแค่ครั้งเดียวก่อนออกจากบ้าน แต่ความจริงแล้ว คุณควรทาครีมกันแดดซ้ำหลังว่ายน้ำหรือเหงื่อออก และให้ทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง โดยให้คุณใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือมากกว่านี้ และให้ทาครีมกันแดดประมาณ 1 แก้วช็อตให้ทั่วร่างกาย

จากที่กล่าวไปจะเห็นได้ว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้ผิวของเราเสียหายจากแสงแดด โดยเป็นได้ตั้งแต่การใช้น้ำหอมไปจนถึงการที่ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานได้แย่ลง นอกจากการหลีกเลี่ยงปัจจัยบางข้อที่เรากล่าวไปแล้ว คุณก็อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกจากบ้านด้วยค่ะ



5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
webmd.com, things-that-make-the-skin-more-likely-to-be-damaged-by-sunlight (https://www.webmd.com/beauty/want-healthy-skin-avoid-sun-damage#1)
medlineplus.gov, things-that-make-the-skin-more-likely-to-be-damaged-by-sunlight (https://medlineplus.gov/ency/anatomyvideos/000125.htm)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป