10 ข้อควรทำและหลีกเลี่ยง เมื่อท้องเสีย

เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 11 ก.พ. 2020 เวลาอ่านประมาณ 1 นาที

ท้องเสียเป็นอาการที่หายคนเคยเป็น บางคนอาจจะเคยต้องท้องเสียมากกว่าหนึ่งครั้ง อาการท้องเสียมีลักษณะได้หลายอย่าง ตั้งแต่มีการถ่ายอุจจาระไม่หยุดหรือจำนวนหลายครั้งในหนึ่งวัน โดยอุจจาระส่วนใหญ่ที่ออกมาจะเป็นน้ำเสียเป็นส่วนมาก

สาเหตุของการเกิดอาการท้องเสีย

ท้องเสียอาจเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น การดื่มน้ำที่ไม่สะอาดหรือกินอาหารที่มีเชื้อโรคแบคทีเรียปะปน การแพ้อาหารบางอย่าง เช่น แพ้นม ซึ่งเมื่อมีเชื้อโรคเข้าสู่ลำไส้แล้ว กลไกการป้องกันของร่างกาย จะพยายามต่อต้านและหาทางขับเชื้อโรคแบคทีเรียดังกล่าวออกไป ด้วยการถ่ายเป็นอุจจาระนั่นเอง

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

การปฏิบัติตัวเมื่อท้องเสีย

  1. ห้ามกินยาแก้ท้องเสีย หรือยาที่ทำให้หยุดถ่ายโดยเด็ดขาด เพราะตัวยาหยุดถ่ายจะทำให้ร่างกายหยุดการถ่ายอุจจาระได้ก็จริงแต่เชื้อโรคและอุจจาระที่ยังคงค้างอยู่ในภายในลำไส้ยังคงอยู่ สิ่งที่จะเกิดตามมาก็คือ อาการปวดท้อง แน่นท้องมากขึ้น ฉะนั้นหากท้องเสียต้องทำการถ่ายอุจจาระออกไปให้หมด
  2. หลังจากท้องเสีย ห้ามกินอาหารอีก 2 -4 ชั่วโมง เพื่อเป็นการหยุดการทำงานของลำไส้
  3. ดื่มน้ำเกลือแร่เข้าไปทดแทนน้ำ ที่ถูกถ่ายออกไปพร้อมกับอุจจาระ โดยการใช้น้ำต้มสุกผสมกันกับผงเกลือแร่แล้วดื่มแทนน้ำ
  4. หลีกเลี่ยงการดื่มนมและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งเครื่องดื่มจำพวก ชา กาแฟ รวมไปถึงน้ำผลไม้ด้วย
  5. หากหิวให้กินเฉพาะอาหารอ่อนที่สามารถย่อยง่าย เช่น ข้าวต้มเกลือ หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดและรสจัด
  6. กินโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์โปรไบโอติก เพราะเชื้อจุลินทรีย์ดังกล่าวจะช่วยทำให้อาการท้องร่วงทุเลาลง
  7. หากมีอาการอื่นแทรกซ้อนตามมาอย่างเช่น คลื่นไส้อาเจียน เป็นไข้ตัวร้อนหรือมีอาการปวดท้อง ก็จำเป็นต้องใช้ยารักษาตามอาการที่เป็นก่อน
  8. หลีกเลี่ยงการกินอาหารมากจนเกินไปในแต่ละมื้อ เพราะว่าจะทำให้ผนังตรงท้องขยายตัวเป็นผลให้ต้องถ่ายอุจจาระออกมา
  9. ควรเคี้ยวอาหารนั้นๆให้ละเอียดที่สุด เพื่อทำให้กระเพาะอาหารสามารถย่อยอาหารได้โดยง่ายและการกินอาหารอย่างเร่งรีบจะทำให้เกิดแก๊สสะสมในลำไส้ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดตามมา
  10. รักษาอารมณ์ให้สดใสอย่าวิตกกังวล นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะความเครียดเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอาการท้องเสีย

หลังจากปฏิบัติตามขั้นตอนดังกล่าวแล้ว แต่หากยังมีอาการท้องเสียเหมือนเดิม และยังไม่หายภายใน 3 วัน ต้องรีบไปพบแพทย์ในทันที เมื่อหายจากอาการท้องเสียแล้ว ต่อไปต้องคอยควบคุมการกินอาหาร ควรกินอาหาร ผัก ผลไม้ที่มีกากใยสูงเพราะใยอาหารจะเป็นเหมือนไม้กวาดวิเศษช่วยทำความสะอาดในลำไส้ทำให้ลำไส้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


9 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
3 Ways to Make Diarrhea Go Away Fast Without Drugs. Verywell Health. (https://www.verywellhealth.com/how-to-make-diarrhea-go-away-1324506)
The Dos and Don'ts of Treating Diarrhea for Quick Relief. Everyday Health. (https://www.everydayhealth.com/diarrhea/treatment/dos-donts-treating-diarrhea-quick-relief/)
What to eat when you have diarrhea: A guide. Medical News Today. (https://www.medicalnewstoday.com/articles/320124)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป