กองบรรณาธิการ HonestDocs
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HonestDocs

บัวบก (Gotu Kola)

เผยแพร่ครั้งแรก 27 ม.ค. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที

บัวบก (Gotu kola) คือพืชสมุนไพรที่มักใช้กันเป็นยาจีนและยาอายุรเวท โดยส่วนที่นำไปทำยาคือส่วนที่อยู่พ้นดินขึ้นไป เป็นพืชที่ใช้รักษาภาวะติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิต อย่างภาวะติดเชื้อที่ท่อปัสสาวะ (Urethritis) โรคงูสวัด (Shinglesโรคเรื้อน (Leprosy) อหิวาตกโรค (Cholera) โรคบิด (Dysentery) ซิฟิลิส (Syphilisไข้หวัด (Common cold) โรคเท้าช้าง (Elephantiasis)

นอกจากนี้ยังสามารถนำไปทาบนผิวหนังเพื่อสมานบาดแผลและลดรอยแผลเป็นได้ ใช้ทาเพื่อลบรอยแตกลายที่หน้าท้องขณะตั้งครรภ์ รวมไปถึงรอยเย็บหลังผ่าตัดจากการตั้งครรภ์

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ประโยชน์ของบัวบก

บัวบกมีสารเคมีชนิดหนึ่งที่ช่วยลดการอักเสบและลดความดันโลหิตของเส้นเลือดดำที่จะนำมาซึ่งภาวะหลอดเลือดดำขอด อีกทั้งยังช่วยผลิตคอลลาเจน (Collagen) ซึ่งเป็นสารสำคัญในการสมานบาดแผล

ภาวะที่ใช้บัวบกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ลดภาวะผิดปกติของการไหลเวียดของเลือดจากขาและเท้ากลับไปสู่หัวใจ นำมาซึ่งภาวะหลอดเลือดดำบกพร่องเรื้อรัง (Venous insufficiency) การรับประทานหรือใช้สารสกัดจากบัวบก ที่เรียกว่า Centellase เป็นเวลา 4-8 สัปดาห์จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดและลดอาการบวมของผู้ที่มีการไหลเวียนเลือดที่ขาไม่ปกติ

ภาวะที่ยังคงขาดหลักฐานว่าบัวบกรักษาได้หรือไม่

  • ภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis) ผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดแข็งจะมีไขมันสะสมอยู่ตามผนังเยื่อบุของหลอดเลือด การรับประทานจะช่วยให้คราบที่เกาะตามหลอดเลือดคงที่ ทำให้ไม่ก่อให้เกิดลิ่มเลือด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของภาวะหัวใจวายหรือหลอดเลือดสมองอุดตัน อย่างไรก็ตาม การศึกษาในประเด็นดังกล่าวยังมีไม่มากพอที่จะยืนยันผลการรักษาดังกล่าว
  • ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดที่ขาขณะนั่งเครื่องบินเป็นเวลานาน บัวบกสามารถช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดที่เกิดในขาจากการนั่งเที่ยวบินระยะเวลานาน มีหลักฐานว่าบัวบกอาจลดของเหลวและเพิ่มการไหลเวียนโลหิตของผู้ที่ต้องใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมงบนเครื่องบิน แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าการลดลงของลิ่มเลือดเกิดขึ้นได้จริง
  • ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด มีการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่า สารสกัดบัวบกสามารถคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเก็บข้อมูลในมนุษย์
  • ช่วยเรื่องความจำ มีการศึกษาบ่งชี้ว่า การรับประทานสารสกัดจากบัวบก 1,000 มิลลิกรัมต่อวันเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ จะช่วยเรื่องความจำในผู้ป่วยที่เป็นเส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก หากเทียบเท่าการรับประทานกรดโฟลิกวันละ 750 กรัม
  • แผลเป็นชนิดที่โตมากเกินไป หรือคีลอยด์ (Keloid) มีบางหลักฐานกล่าวถึงการทาสารสกัดจากใบบัวบกที่เรียกว่า Madecassol อาจช่วยลดเนื้อเยื่อแผลเป็นส่วนเกิน
  • ผิวหนังแดงแตกสะเก็ด (โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)) มีบางหลักฐานกล่าวถึงการทาบัวบกที่ผิวหนังอาจช่วยลดอาการของโรคสะเก็ดเงิน
  • รอยแผลเป็น งานวิจัยกล่าวว่าการทาครีมบัวบก (Alpha centella) บนผิวหนัง 2 ครั้งต่อวันนาน 6-8 สัปดาห์หลังนำไหมเย็บแผลออกอาจช่วยลดรอยแผลเป็น
  • รอยแผลเป็นจากการผ่าตัดคลอดบุตร งานวิจัยกล่าวว่าการทาครีมโตรโฟลาสติน (Trofolastin) ที่มีส่วนผสมของบัวบก วิตามินอี (Vitamin E) และคอลลาเจน ทุกวัน จะลดรอยแผลเป็นบนหน้าท้องได้ อีกทั้งมีหลักฐานว่ายาทาเฉพาะที่สำหรับรักษาการติดเชื้อแผลผ่าตัดที่มีส่วนผสมของบัวบก วิตามินอี กรดไขมันที่จำเป็น กรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic acid) อีลาสติน (Elastin) และเมนทอล (Menthol) อาจช่วยป้องกันผิวแตกลาย (Stretch marks) จากการผ่าตัดคลอดบุตร
  • สมานบาดแผล มีบางหลักฐานที่กล่าวว่าการทาบัวบกบนผิวหนังอาจช่วยเพิ่มกระบวนการสมานแผล

ผลข้างเคียงและความปลอดภัยของการใช้บัวบก

หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร บางคนที่ใช้ทาผิวอาจมีอาการแพ้ คัน แสบร้อนได้ ควรล้างออกและหลีกเลี่ยงการใช้ อย่างไรก็ตาม การทาบัวบกอาจจะปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ แต่ไม่ควรรับประทานเนื่องจากอาจมีผลยุติการตั้งครรภ์ได้ ส่วนหญิงให้นมบุตรยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดถึงการส่งผ่านสารอาหารทางน้ำนม ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขณะตั้งครรภ์และระหว่างให้นมบุตรเพื่อความปลอดภัย
นอกจากนี้บัวบกไม่ควรรับประทานติดต่อกันต่อเนื่องเกิน 6 สัปดาห์ หากต้องการรับประทานต่อ ควรหยุดรับประทานประมาณ 2 สัปดาห์แล้วจึงเริ่มรับประทานใหม่ เพราะถ้าบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ลำไส้แปรปรวน มึนงง และง่วงนอน

ข้อควรระวังเป็นพิเศษสำหรับการใช้บัวบก

โรคตับ มีข้อกังวลว่าบัวบกอาจสร้างความเสียหายแก่ตับได้ ผู้ที่เป็นโรคตับอยู่ก่อน (เช่น โรคตับอักเสบ) ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเพราะอาจทำให้อาการของโรคทรุดลงได้

การผ่าตัด หากรับประทานร่วมกับยาที่ใช้ระหว่างและหลังการผ่าตัดอาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นควรหยุดรับประทานอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด

การใช้บัวบกร่วมกับยาชนิดอื่น

ห้ามใช้บัวบกร่วมกับยาเหล่านี้

  • ยากล่อมประสาท (CNS depressants)
    การบริโภคบัวบกปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการง่วงนอน ดังนั้นไม่ควรรับประทานบัวบกร่วมกับยากล่อมประสาท ตัวอย่างยากล่อมประสาทมีทั้ง Clonazepam (Klonopin), Lorazepam (Ativan), Phenobarbital (Donnatal), Zolpidem (Ambien) และอื่นๆ

ควรใช้บัวบกร่วมกับยาเหล่านี้ด้วยความระมัดระวัง

  • ยาที่ส่งผลเสียต่อตับ (Hepatotoxic drugs)
    บัวบกอาจสร้างความเสียหายต่อตับ การรับประทานบัวบกร่วมกับยาที่ส่งผลเสียกับตับจะเพิ่มความเสี่ยงที่ตับจะเสียหายได้มากขึ้น ตัวอย่างยาที่ส่งผลเสียต่อตับมีทั้ง Acetaminophen (Tylenol และอื่น ๆ), Amiodarone (Cordarone), Carbamazepine (Tegretol), Isoniazid (INH), Methotrexate (Rheumatrex), Methyldopa (Aldomet), Fluconazole (Diflucan), Itraconazole (Sporanox), Erythromycin (Erythrocin, Ilosone อื่นๆ), Phenytoin (Dilantin), Lovastatin (Mevacor), Pravastatin (Pravachol), Simvastatin (Zocor) และอื่นๆ มากมาย

การใช้ยาที่สกัดจากบัวบก

สำหรับผู้มีปัญหาการไหลเวียนโลหิตที่ขาไม่ดี (Venous insufficiency) ให้รับประทานสารสกัดจากบัวบก 60-180 มิลลิกรัม ทุกวัน


17 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Xu, Yanan & Cao, Zhiming & Khan, Ikhlas & Luo, Yuan. (2008). Gotu Kola (Centella Asiatica) Extract Enhances Phosphorylation of Cyclic AMP Response Element Binding Protein in Neuroblastoma Cells Expressing Amyloid Beta Peptide. Journal of Alzheimer's disease : JAD. 13. 341-9. 10.3233/JAD-2008-13311. ResearchGate. (Available via: https://www.researchgate.net/publication/5421896_Gotu_Kola_Centella_Asiatica_Extract_Enhances_Phosphorylation_of_Cyclic_AMP_Response_Element_Binding_Protein_in_Neuroblastoma_Cells_Expressing_Amyloid_Beta_Peptide)
Sari, Dwi & Arfian, Nur & Tranggono, Untung & Setyaningsih, Wiwit & Romi, Muhammad & Emoto, Noriaki. (2019). Centella asiatica (Gotu kola) ethanol extract up-regulates hippocampal brain-derived neurotrophic factor (BDNF), tyrosine kinase B (TrkB) and extracellular signal-regulated protein kinase 1/2 (ERK1/2) signaling in chronic electrical stress model in rats. Iranian journal of basic medical sciences. 22. 1218-1224. 10.22038/ijbms.2019.29012.7002. ResearchGate. (Available via: https://www.researchgate.net/publication/338951447_Centella_asiatica_Gotu_kola_ethanol_extract_up-regulates_hippocampal_brain-derived_neurotrophic_factor_BDNF_tyrosine_kinase_B_TrkB_and_extracellular_signal-regulated_protein_kinase_12_ERK12_signaling_)
Bradwejn, Jacques & Zhou, YP & Koszycki, Diana & Shlik, J.. (2001). A Double-Blind, Placebo-Controlled Study on the Effects of Gotu Kola (Centella asiatica) on Acoustic Startle Response in Healthy Subjects. Journal of clinical psychopharmacology. 20. 680-4. 10.1097/00004714-200012000-00015. ResearchGate. (Available via: https://www.researchgate.net/publication/12222201_A_Double-Blind_Placebo-Controlled_Study_on_the_Effects_of_Gotu_Kola_Centella_asiatica_on_Acoustic_Startle_Response_in_Healthy_Subjects)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน ผู้อ่านไม่ควรเลือกใช้ยาเองจากการอ่านบทความ ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง เพราะแต่ละท่านอาจมีสาเหตุของโรค โรคประจำตัว และประวัติการรักษาที่ต่างกัน ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)