อะไรคือผลกระทบต่างๆ ของพฤติกรรมการส่งรูปเปลือยหรือรูปเกือบเปลือยพร้อมกับข้อความที่มีความหมายล่อแหลมทางเพศให้กับผู้อื่น (Sexting)?

มาค้นหาว่าวัยรุ่นได้รับผลกระทบทางอารมณ์และทางกฎหมายได้อย่างไร
เผยแพร่ครั้งแรก 3 ม.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
อะไรคือผลกระทบต่างๆ ของพฤติกรรมการส่งรูปเปลือยหรือรูปเกือบเปลือยพร้อมกับข้อความที่มีความหมายล่อแหลมทางเพศให้กับผู้อื่น (Sexting)?

เป็นที่น่าตกใจมากว่า Sexting หรือ พฤติกรรมการส่งรูปเปลือยหรือรูปเกือบเปลือยพร้อมกับข้อความที่มีความหมายล่อแหลมทางเพศให้กับผู้อื่น มีการเพิ่มขึ้นและเริ่มเป็นเรื่องปกติในหมู่วัยรุ่นที่ใช้กล้องที่ติดตั้งในตัวอุปกรณ์ในโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ไอแพด หรืออุปกรณ์อิเลคโทรนิคอื่นๆ เพื่อถ่ายรูปภาพเปลือยหรือรูปภาพที่ส่ออารมณ์ทางเพศ

Sexting มีหลายๆ ผลกระทบที่รุนแรง ซึ่งไม่ใช่แค่กับบุคคลที่ถ่ายและส่งรูปภาพ แต่ส่งผลกระทบต่อคนที่รับรูปภาพเหล่านั้นด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ มันเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องคุยกับลูกของคุณเกี่ยวกับผลกระทบเหล่านี้ ไม่ใช่แค่วัยรุ่นควรตระหนักถึงผลกระทบทางอารมณ์ของ sexting แต่พวกเขาควรตระหนักถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นทางกฎหมายด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น โดยส่วนมากแล้ว Sexting มักเกี่ยวข้องกับผู้เยาว์ ดังนั้นรูปภาพเปลือยจึงถือเป็นสื่อลามกในเด็ก ด้วยเหตุนี้ การส่งหรือรับข้อความเหล่านี้จึงถือว่าเป็นอาชญากรรม นี่คือภาพรวมของสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับวัยรุ่นทั้งในทางอารมณ์และทางกฎหมายถ้าพวกเขามีส่วนร่วมกับ Sexting

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ผลกระทบทางอารมณ์

หลายๆ ครั้ง เด็กๆ มีส่วนร่วมใน Sexting โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่างๆ แต่หนึ่งในการกระทำที่หุนหันพลันแล่นจะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาตั้งแต่นั้นมา นี่คือบางวิธีที่เด็กๆ ที่ทำ Sexting ต้องทนทุกทรมานทางอารมณ์

  • ประสบกับความอับอายและขายหน้า เมื่อรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับเพศหรือรูปภาพเปลือยถูกส่งต่อไปให้อีกคน ไม่มีการรับประกันว่ารูปนี้จะยังคงเป็นส่วนตัว และในหลายๆ กรณีที่รูปภาเหล่านี้จะยังเป็นส่วนตัว ในนานๆ ครั้งเมื่อความสัมพันธ์จบลงและเพื่อนรู้สึกโกรธ รูปภาพเหล่านี้มักจะถูกส่งต่อให้กลุ่มคนโดยมากเพื่อเป็นการกระทำของการแก้แค้น ด้วยเหตุนี้บุคคลในรูปมักจะประสบกับความอับอายและขายหน้าเมื่อรูปภาพถูกส่งต่อ เด็กหลายๆ คนได้รายงานความรู้สึกเหมือนการเดินเปลือยกายบนทางไปโรงเรียน
  • ประสบกับการโดนรังแก เมื่อข้อความ Sexting กลายเป็นข้อความสาธารณะ นี่มักจะเปิดช่องทางให้วัยรุ่นโดนข่มเหงรังแก โดยเฉพาะการคุกคาม ล่อลวง หรือกลั่นแกล้งบนโลกอินเตอร์เน็ต มีเรื่องราวที่นับไม่ถ้วนของผู้หญิงวัยรุ่นที่เข้าร่วม Sexting และหลังจากนั้นโดนรังแกจากการคุมคาม ล่อลวง หรือกลั่นแกล้งบนโลกอินเตอร์เน็ต สองเรื่องราวของ Jessica Logan และ Amanda Todd นั้นเกี่ยวข้องกับ Sexting ที่มีจุดจบอย่างน่าเศร้า เด็กหญิงทั้งสองนี้ถูกเรียกชื่ออย่างหยาบคายทั้งต่อหน้าและบนโลกออนไลน์ นอกเหนือจากนั้น ทั้งสองคนยังโดนกีดกันและขับไล่จากนักเรียนคนอื่นๆ ท้ายที่สุดเด็กหญิงทั้งสองเลือกที่จะฆ่าตัวตาย
  • ประสบกับการเลิกความสัมพันธ์ฉันท์มิตร หลายๆ ครั้งที่รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับเพศกลายเป็นรูปภาพสาธารณะ มิตรภาพจะจบลง ประสบการณ์นี้สามารถทิ้งความรู้สึกถูกทรยศและโดดเดี่ยวให้กับวัยรุ่นที่เป็นบุคคลในภาพเพราะแรงกดดันจากเพื่อนเป็นอิทธิพลที่ทรงพลัง เพื่อนๆ มักจะตีตัวออกห่างจากบุคคลที่เป็นเหยื่อเพราะพวกเขากลัวว่าจะถูกรังแกด้วยเช่นกัน และพวกเขากลัวว่าเสื่อมเสี่ยชื่อเสียงจากความสัมพันธ์นี้
  • ประสบกับความรู้สึกผิดและความอับอาย การมีรูปภาพที่เป็นส่วนตัวและเฉพาะบุคคลที่มีคนดูเป็นจำนวนมากสามารถทำให้เกิดความรู้สึกผิดและความอับอายได้ อย่างมากด้วยเหตุนี้ เด็กที่เข้าร่วมใน Sexting มักจะเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำและสิ่งนี้ได้ส่งผลกระทบกับการเชื่อมั่นในตัวเอง ทำให้พวกเขารู้สึกหวั่นไหวได้ง่ายและรู้สึกไม่มั่นคง
  • ประสบกันการเป็นวัตถุทางเพศ เด็กผู้หญิงที่ถ่ายรูปภาพเปลือยแล้วส่งรูปภาพเหล่านี้ให้แฟนของพวกเธอเสี่ยงต่อการเป็นวัตถุทางเพศ ด้วยเหตุนี้ พวกเธอมีความเสี่ยงสูงของการตกเป็นเหยื่อทางเพศและการข่มขืนเพราะคนอื่นได้ปักใจถึงการที่พวกเธอยอมถ่ายและส่งรูปภาพเหล่านี้แล้ว
  • ประสบกับความรู้สึกสิ้นหวัง เหมือนกับการรังแก การเยาะเย้ยและความอับอายยังของเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมี Sexting วัยรุ่นสามารถเริ่มรู้สึกสิ้นหวังและกลายเป็นโรคซึมเศร้าและพวกเขาอาจเลือกที่จะฆ่าตัวตาย              

ผลกระทบทางกฎหมาย

เด็กๆ มักไม่ได้คิดว่าการ Sexting กับคนรักของพวกเขาไม่ปลอดภัย เพราะจริงๆ แล้วพวกเข้าสามารถเผชิญกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นทางกฎหมายที่รุนแรง นี่คือบางรายละเอียดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบทางกฎหมายของ Sexting

  • ความเสี่ยงของการถูกกล่าวหาในคดีอาญาสำหรับความผิดเรื่องสื่อลามกในเด็ก ทั้งเด็กที่ส่งรูปภาพและเด็กที่รับรูปภาพสามารถถูกต้องคดี คนที่ส่งรูปภาพอาจโดยต้องคดีเกี่ยวกับการส่งรูปลามกในเด็กของในบางรัฐและคนที่รับรูปภาพเหล่านั้นอาจโดนต้องคดีเกี่ยวกับการรับรูปภาพลามกในเด็ก แม้พวกเขาไม่ได้ต้องการรูปภาพเหล่านั้น ถ้าพวกเขาส่งรูปภาพเหล่านั้นให้เพื่อนๆ ดังนั้นพวกเขาอาจโดนต้องคดีเกี่ยวกับการเผยแพร่สื่อลามกในเด็ก
  • ความเสี่ยงของการมีรายชื่อเป็นผู้กระทำผิดทางเพศ นอกจากความเป็นไปได้ในการต้องโทษในห้องขังและการทำภาคทัณฑ์ถ้าต้องโทษทางคดีเกี่ยวข้องกับสื่อลามกในเด็ก วัยรุ่นที่เข้าร่วมใน Sexting มีความเสี่ยงของการมีรายชื่อเป็นผู้กระทำผิดทางเพศอีกด้วย การตราหน้าในรูปแบบนี้อาจเป็นภาระอย่างมากสำหรับบางคนเพราะมลทินนี้จะถูกติดอยู่กับพวกเขาตลอดเวลาและการรายงานตัวนั้นเป็นเรื่องจำเป็น นอกจากนี้ สิ่งนี้ยังคงตามหลอกหลอนพวกเขาอยู่ตลอดชีวิต
  • ความเสี่ยงของการให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในผลกระทบทางกฎหมาย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผู้ปกครองทราบว่าลูกของพวกเข้ากำลังทำ Sexting และไม่ทำอะไรเพื่อหยุดยั้งลูกของพวกเขา ผู้ปกครองอาจถูกต้องคดีด้วยการก่อให้เกิดการกระทำผิดทางอาญาในผู้เยาว์และพวกเขาสามารถถูกฟ้องแพ่งถ้าผู้ปกครองของผู้เสียหายเลือกที่จะฟ้องร้อง
  • ความเสี่ยงในการเข้าศูนย์การรับเลี้ยงเด็กหรือถูกให้ออกจากบ้าน ถ้าผู้ปกครองรับรู้เกี่ยวกับเรื่อง Sexting และไม่กระทำการใดๆ เพื่อที่จะหยุดยั้งการกระทำนี้ พวกเขาอาจจะโดนสืบสวนโดยฝ่ายคุ้มครองเด็ก บางครั้งการสืบสวนนี้อาจให้ผลลัพท์โดยที่เด็กอาจถูกให้ออกจากบ้าน

4 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
The Consequences of Sexting for Teens. Verywell Family. (https://www.verywellfamily.com/what-are-the-consequences-of-sexting-460557)
Sexting Among Adolescents: The Emotional Impact and Influence of the Need for Popularity. National Center for Biotechnology Information. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6712510/)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)